วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

My blue day.

เคยคิดไหมว่า ทำไมเราถึงต้องพยายามที่จะไขว่คว้าอะไรสักอย่างที่มันยากเกินที่เราจะสามารถทำให้เป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เรารักคนที่เขาไม่สามารถให้ความรักตอบกลับมาได้ ถึงแม้ว่าเขามีเงื่อนไขมากมายที่ควรต้องรักเรา เรายังไม่อาจ ไม่สามารถขอร้องอะไรจากใครได้เลย

เคยเหนื่อยไหม เหนื่อย อยากหยุดวิ่ง ไม่อยากทำอะไรที่เราต้องทำ เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากคนอื่น เบื่อ อยากปฏิเสธสังคมที่เราอยู่ ไม่อยากรับรู้ อยากทำตัวล่องหน หายไป แต่ยังคงอยู่ เบื่อหน่ายกับความจริงที่เป็นอยู่ อยากเดินออก จากสิ่งที่เราต้องทำทุกวัน ทุกวัน

หากชีวิตมีวันหยุดจริงๆก็ดีนะ หยุดรับ หยุดให้ หยุดแบก หยุดความรู้สึก หยุดทุกความปรารถนา หยุดทุกความสุข ความเศร้า ความสมหวัง ความไม่สมหวัง หยุดที่จะทำตัวมีสาระ หรือหยุดที่ต้องพยายามทำตัวไร้สาระ เมื่อไรกันที่หมดศรัทธาในตัวเอง อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เหมือน มันเดินมาสุดทาง อยากลืมทุกอย่าง แต่ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวดที่มีได้ ที่ไหนที่มีความสุขสุดๆ อีกไม่นาน ความทุกข์ระดับเท่าเทียมกันมันก็ตามมาทันที

เกิด แล้วก็ตาย แต่ระหว่างทาง ระหว่างความเกิดกับความตาย สิ่งที่เรียกว่าการมีชีวิตอยู่นั้น จะใช้มันอย่างไร ให้สงบ ให้เหมือนกับไม่มีชีวิต จะได้ไม่ต้องรู้สึกรู้สาอะไรกับอะไรทั้งนั้น ทำไม การประสบความสำเร็จนั้นมันทุกข์ทรมานขนาดนี้ คนขี้แพ้ ที่ไม่เคยได้ลิ้มรสชัยชนะ คงจะมีความสุขได้มากกว่าหรือเปล่า อะไรที่เรียกร้อง มังกรไฟ ที่เคลื่อนไหว เผาไหม้กายเนื้อแทบจะเป็นจุณ

ลืมซะ หลับซะ สักวัน พักซะ สักนาที ระบายออกมาซะ พ่นไฟออกมาซะ เพื่อเผาตัวตนของตัวเอง ณ ที่นี้ เพื่อให้ใจไหม้จนเป็นขุย และจบ และเจ็บกับมังกรร้าย ที่ร่ายรำอย่างน่าสังเวชนัั้น

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

My first day as a blogger - วันแรกที่จริงจังกับการเป็นบล็อคเกอร์


สวัสดีทุกคน 
วันนี้เป็นวันที่เริ่มต้นการเขียนบล็อคอย่างจริงจังเป็นวันแรก
ความจริงก็เขียนอย่างต่อเนื่องมาประมาณสองปีใน My space แต่ว่าหยุดไปเพราะงานประจำที่ทำให้เวลาส่วนตัวน้อยลง ก่อนหน้านี้ที่เขียนจะเป็นเรื่องการเมืองส่วนมาก แต่ว่าครั้งนี้ ได้มีการกำหนดหัวข้อของเนื้อหาไว้ชัดเจนว่าจะเป็นการเขียนวิจารณ์หรือแสดงข้อคิดเห็นต่อหนังสือที่ได้อ่านไป 

เป็นที่แน่นอนว่าเนื้อหาย่อมน่าเบื่อไม่เหมือนเดิมที่มักจะมีแต่มุกตลกๆ แต่ว่า ครั้งนี้สาระเพียบ
หวังว่าเพื่อนๆร่วมโลกคนใดที่สนใจงานเขียน หนังสือ หรืออะไรก็แล้วแต่ จะได้สาระจากบล็อคนี้ไปบ้างไม่มากก็น้อย

แต่ว่า ข่าวดีก็คือ นอกจากหนังสือแล้ว ยังมีเนื้อหาอื่นอีกด้วย นั้นคือ การนำเสนอเรื่องราวของบุคคลที่น่าสนใจ ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ มาให้อ่านกันด้วย เนื้อหาสาระ เน้นๆ แน่นๆ เลย

วันนี้จะเริ่มจากหนังสือเรื่อง "เหนือนาฏกรรม" ของคุณอุเทน พรมแดง เป็นหนังสือรวมสิบเรื่องสั้นที่เข้ารอบสุดท้าย รางวัล Young Thai Artist Award 2005 ของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ก็มีความคิดเห็นว่า มันเป็นเรื่องสั้นที่ไม่ค่อยจะได้อารมณ์เท่าไร ประหนึ่งภาพเขียนที่เลือกนำเสนอแต่ทางด้านดุดันและโหดร้ายของสังคม อ่านแล้วพลอยเศร้าสร้อย หดหู่ไปกับประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย และโหดร้ายที่จะประหัดประหารชีวิตกัน ประหนึ่งคาวเลือดมันช่างหวานยิ่งนัก อะไรทำนองนี้ ผู้อ่านมีความคิดว่า อาจเป็นเพราะเป็นงานชิ้นแรกๆของเขียนก็เป็นได้ คิดว่าหากมีโอกาส คงจะได้อ่านงานเล่มอื่นของผู้เขียนต่อไป

ทั้งนี้ เป็นรสนิยมส่วนตัวด้วยนะ หากใครชอบแนวแบบแปลกๆ สืบสวน ฆาตรกรรม ไรงี้ อาจจะชอบได้